ตำรวจกรุงวอชิงตันยืนยัน สามารถควบคุมสถานการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภา ในเมืองหลวงของสหรัฐไว้ได้แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และถูกจับกุมมากกว่า 50 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า เจ้าหน้าที่โรเบิร์ต คอนตี ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกรุงวอชิงตัน แถลงเมื่อคืนวันพุธ ยืนยันเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่อาคารรัฐสภาไว้ได้แล้ว หลังเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เกิดเหตุมวลชนฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรุกเข้าไปภายในรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประชุมร่วมของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อรับรองมติของคณะผู้เลือกตั้ง ในการให้นายโจ ไบเดน เตรียมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่
แม้เจ้าหน้าที่สามารถอพยพสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดได้ทันเวลา และย้ายตัวรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไปยังสถานที่ปลอดภัยนานหลายชั่วโมง แต่การบุกรุกสถานที่ราชการเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้ “มาตรการขั้นเด็ดขาด” ภายในกรอบของกฎหมาย เพื่อควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คอนตียืนยันว่าตำรวจได้ยิงผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งเสียชีวิต และได้แจ้งให้ครอบครัวของผู้วายชนม์รับทราบแล้ว ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 3 คน แต่ทุกฝ่ายยังสงวนข้อมูลทั้งหมด โดยเผยเพียงว่า ทั้งสามคนเสียชีวิตระหว่างขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัย
ขณะเดียวกัน ตำรวจจับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้อย่างน้อย 52 คน และเจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่อง ที่อาคารที่ทำการของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ในกรุงวอชิงตัน และระเบิดขวดจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันหนึ่งด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับระเบิดเหล่านี้มาสอบสวน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่คอนตียังกำชับให้ประชาชนปฏิบัติตามเคอร์ฟิว ที่มีผลระหว่างเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ ถึง 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี ( 06.00 – 18.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย )